top of page
ค้นหา

เมี่ยงคำใบชะพลู : ของทานเล่นทรงคุณค่าจากอดีต

  • nabowonfood
  • 20 ส.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

เมี่ยงคำใบชะพลู

วันหนึ่งในขณะที่แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านใบไม้ เสียงน้ำตกกระทบใบบัวในอ่างดินเผาดังแว่วๆ กลิ่นหอมของใบชะพลูลอยละล่องมาตามสายลม ชวนให้นึกถึงรสชาติอันกลมกล่อมของเมี่ยงคำที่เคยลิ้มลองมา


เมี่ยงคำใบชะพลู อาหารว่างโบราณของคนไทยที่สืบทอดมาแต่ครั้งอดีตกาล เป็นภูมิปัญญาการกินที่รวมเอาสมุนไพรนานาชนิดเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ใบชะพลูสีเขียวเข้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ห่อหุ้มส่วนผสมที่หลากหลายทั้งรสชาติและคุณประโยชน์


ในอดีต เมี่ยงใบชะพลูมักพบเห็นได้ในงานมงคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้แต่การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นอาหารมงคล ส่วนผสมแต่ละอย่างล้วนมีความหมายแฝงอยู่ ขิงแก่สื่อถึงความเฉียบแหลม กุ้งแห้งหมายถึงความก้าวหน้า และมะพร้าวคือความอุดมสมบูรณ์


การเตรียมเมี่ยงใบชะพลูนั้นต้องใช้ความประณีตและใส่ใจในทุกขั้นตอน เริ่มจากการเลือกใบชะพลูที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป ล้างให้สะอาดและซับให้แห้ง จากนั้นเตรียมส่วนผสมต่างๆ ทั้งหมากแห้ง ขิงแก่ หอมแดง กุ้งแห้ง มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว และมะนาว หั่นทุกอย่างให้เป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ


น้ำเมี่ยงถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยประสานรสชาติทั้งหมดเข้าด้วยกัน สูตรดั้งเดิมนั้นใช้น้ำตาลมะพร้าว กะปิย่าง และเกลือ เคี่ยวจนเหนียวข้น บางสูตรอาจเพิ่มน้ำมะขามเปียกเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว ให้รสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น


วิธีรับประทานเมี่ยงใบชะพลูนั้นเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เริ่มจากการวางใบชะพลูบนฝ่ามือ จากนั้นใส่ส่วนผสมต่างๆ ลงไปทีละนิด ราดด้วยน้ำเมี่ยงเล็กน้อย ห่อให้พอดีคำแล้วรับประทานทั้งหมดในคำเดียว รสชาติที่ผสมผสานกันทั้งหวาน เค็ม เผ็ด เปรี้ยว กรอบ และนุ่ม สร้างประสบการณ์การกินที่ครบรสในคำเดียว


แม้ว่าเวลาจะผ่านไป แต่เสน่ห์ของเมี่ยงใบชะพลูก็ยังคงอยู่ ในปัจจุบัน อาหารว่างชนิดนี้ได้รับการดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย มีการนำเสนอในรูปแบบใหม่ๆ เช่น เมี่ยงไส้กรอก หรือเมี่ยงเต้าหู้ทอด แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แก่นแท้ของความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการก็ยังคงอยู่


เมื่อได้ลิ้มรสเมี่ยงใบชะพลู ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับรสชาติอันกลมกล่อม แต่ยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมการกินของบรรพบุรุษ ที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาผ่านอาหารคำเล็กๆ ให้คงอยู่จนถึงปัจจุบัน


เมี่ยงใบชะพลูของ "ณ บวร" สืบสานกรรมวิธีตามแบบฉบับต้นตำรับ ปรานีตในการปรุงประหนึ่งอาหารถวายพระ ให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับอาหารและประวัจิศาสตร์แห่งสยามไปพร้อมกัน


 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page