top of page
ค้นหา

เรื่องเล่าจากชาวครัว ตอนที่ 3 : พริกไทย

  • nabowonfood
  • 15 ส.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

พริกไทย


เมื่อครั้งที่มนุษย์ยังเริ่มต้นการเดินทางข้ามทวีป เครื่องเทศนั้นถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ผู้คนแสวงหา ท่ามกลางบรรดาเครื่องเทศทั้งหลาย พริกไทยนั้นโดดเด่นราวกับดวงดาวที่ส่องแสงในราตรีกาล เป็นที่ต้องการของชนชั้นสูงและพ่อค้าทั่วทั้งโลกที่รู้จัก


เรื่องราวของพริกไทยนั้นย้อนกลับไปได้ไกลถึงสมัยโบราณ เมื่อ 4,000 ปีก่อนในดินแดนแถบเทือกเขาตะวันตกของอินเดีย ที่ซึ่งต้นพริกไทยเติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ในป่าดิบชื้น ชาวพื้นเมืองค้นพบรสชาติอันเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเม็ดกลมเล็กๆ สีดำนี้ และเริ่มนำมาใช้ในการปรุงอาหารและรักษาโรค


ความนิยมในพริกไทยแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว จากอินเดียสู่จีน และต่อมาถึงอาณาจักรโรมัน พ่อค้าชาวอาหรับเป็นผู้นำพาเครื่องเทศล้ำค่านี้เดินทางไกลข้ามทะเลทรายและมหาสมุทร สู่ดินแดนแห่งยุโรป ที่ซึ่งพริกไทยกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและอำนาจ


ในยุคกลาง พริกไทยมีค่าราคาสูงลิบลิ่ว ถึงขนาดใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและชำระหนี้ได้ ชาวยุโรปเรียกมันว่า "ทองดำ" ด้วยความเคารพในคุณค่าอันสูงส่ง บ้างก็ใช้พริกไทยเป็นของขวัญล้ำค่าสำหรับเจ้านายหรือบุคคลสำคัญ ในขณะที่บางครั้งก็ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของสินสอดในการแต่งงาน


โลกของการทำอาหารสมัยใหม่ พริกไทยยังคงครองตำแหน่งราชาแห่งเครื่องเทศ เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารนานาชาติ พ่อครัวระดับโลกต่างให้ความสำคัญกับการเลือกพริกไทยคุณภาพดีมาใช้ในการปรุงอาหาร และนักชิมก็ยังคงหลงใหลในรสชาติอันเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมัน


ในแง่ของสรรพคุณทางยา การศึกษาทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้ยืนยันถึงคุณประโยชน์ของสารพิเพอรีนในพริกไทย ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการดูดซึมสารอาหารบางชนิด ทำให้พริกไทยไม่เพียงแต่เป็นเครื่องปรุงรส แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย


ในวันนี้ แม้ว่าพริกไทยจะไม่ได้มีมูลค่าสูงเทียบเท่าทองคำเหมือนในอดีต แต่เมื่อหยิบขวดพริกไทยขึ้นมาโรยลงบนจานอาหาร อาจเป็นโอกาสดีที่จะรำลึกถึงเรื่องราวอันน่าทึ่งของเครื่องเทศชนิดนี้ ที่เคยมีค่าดั่งทองคำ และยังคงเป็นสมบัติล้ำค่าในโลกแห่งรสชาติ เป็นสะพานเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน ผ่านกลิ่นและรสที่ยังคงเป็นที่หลงใหลของผู้คนทั่วโลก


สัมผัสรสชาดอาหารตามสูตรต้นตำรับ ยึดความปราณีตในการปรุงตามแบบฉบับอาหารถวายพระ ย้อนรอยอดีตด้วยบรรยากาศที่เสมือนทุกท่านได้ย้อนกลับไปยังวันวานแห่งเมืองสยามได้ทุกวันที่ร้าน "ณ บวร"


 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page