top of page
ค้นหา

เรื่องเล่าจากชาวครัว ตอนที่ ๑ : น้ำปลา

  • nabowonfood
  • 4 ส.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 12 ส.ค. 2567



น้ำปลา

ณ แผ่นดินสยามอันอุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบด้วยผืนน้ำทะเลสีคราม ก่อกำเนิดอารยธรรมการกินอันเป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในนั้นคือ “น้ำปลา” หยาดหยดสีน้ำตาลทองอร่าม กลิ่นหอมกรุ่น ซ่อนเร้นเรื่องราวแห่งภูมิปัญญา และความผูกพันของผู้คนกับสายน้ำ ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน


ย้อนรอยอดีต น้ำปลา มิได้เป็นเพียงเครื่องปรุงรส หากแต่เป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งวิถีชีวิต เริ่มต้นจากชาวเลผู้คุ้นเคยกับท้องทะเล เรียนรู้การถนอมอาหารจากบรรพบุรุษ นำปลาสดมาหมักกับเกลือ ทิ้งไว้ในไหดินเผา ปล่อยให้แสงแดดและกาลเวลาทำหน้าที่ จนได้ที่ น้ำที่เกิดจากการหมักบ่ม คือ “น้ำปลา” หยาดหยดแรกแห่งภูมิปัญญา


น้ำปลา มิได้เป็นเพียงเครื่องปรุงรส หากแต่เป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งวิถีชีวิต


กาลเวลาผ่านไป น้ำปลา ได้รับการยอมรับจากชนชั้นสูง กลายเป็นเครื่องปรุงรสเลิศ คู่สำรับชาววัง ปรากฏหลักฐานในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ก็ยังมีการกล่าวถึง “น้ำปลา” ในทางกวี


ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ น้ำปลา ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเครื่องปรุงรสสำคัญของอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง น้ำพริก หรือแม้แต่ผัดไทย น้ำปลา คือหัวใจ ช่วยเติมเต็มรสชาติให้อาหาร กลมกล่อม อร่อยลิ้น


ในปัจจุบัน น้ำปลา ยังคงเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่ภูมิปัญญาการทำน้ำปลาแบบดั้งเดิมยังคงอยู่ ชาวประมงรุ่นใหม่ สืบทอดวิถีชีวิตจากบรรพบุรุษ ยังคงใช้ปลาสด เกลือ และแสงแดด เป็นส่วนผสมหลัก หมักบ่มในโอ่งดินเผา เพื่อให้ได้น้ำปลาที่มีคุณภาพ รสชาติ และกลิ่นหอม เป็นเอกลักษณ์ ไม่ต่างจากอดีต


นอกจากนี้ น้ำปลา ยังเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ


น้ำปลา มิใช่เพียงหยาดหยดแห่งอารยธรรม หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทย เป็นเครื่องปรุงรสที่ขาดไม่ได้ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ สืบสานต่อไป ให้คงอยู่คู่ครัวไทย


 
 
 

Comments


bottom of page